เสี่ยเบนท์ลีย์ ชดเชยเยียวยาคู่กรณี ปิดค่างวดให้ปาเจโร รวมกว่า 2 ล้านบาท จ่ายให้กู้ภัยอีก 8 แสน จากกรณี รถเบนท์ลีย์ซิ่งบนทางด่วนฯ ไปชนรถยนต์ปาเจโร จนกระทั่งทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บ 8 ราย เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ก่อนหน้านี้
ล่าสุด มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจทางด่วน 1 ได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกัน กระทั่งมีข้อยุติ โดย นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือ เสี่ยจั๊บ คนขับรถเบนท์ลีย์ ยอมชดเชยค่าสินไหมให้กับคู่กรณี รถมิตซูบิชิปาเจโร ให้ นายศราวุธ 29,767 บาท นางสาวณิชชาวีณ์ 30,419 บาท นางวรพรรณ 65,820 บาท นายสมรักษ์ 570,000 บาท นางสาวธนานิษฐ์ 127,976 บาท และก็เด็กชายปน (นามสมมติ) 22,034 บาท
เสี่ยเบนท์ลีย์ ยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์สินอีก 374,900 บาท รวมกว่า 1,220,916 บาท
ตลอดจนเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อเป็นชื่อคู่กรณี แล้วก็ให้คู่กรณีจ่ายค่าปิดงวด กับไฟแนนซ์ทั้งหมด รวมค่าชดเชยทั้งหมด กว่า 2,000,000 บาท ซึ่งการจ่ายค่าเยียวยานี้วันศุกร์ที่ 13 เดือนมกราคม ส่วนทางกู้ภัย คนก่อเหตุยินยอม ชดใช้ค่าเสียหาย 800,000 บาท ซึ่งจ่ายค่าเยียวยาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา
เสี่ยเบนท์ลีย์ชนสนั่น 3 คัน ซิ่งบนทางด่วน ปาเจโร่ตีลังกา 6 ชีวิตรอดชีวิต “สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์” เศรษฐี ใหญ่อดีตนายทุนพรรคการเมือง ซิ่งเบนท์ลีย์บนทางด่วนจี้ท้ายรถยนต์ กระบะดับเพลิง อปพร.บางรัก ขณะ วิ่งไปเหตุไฟไหม้ ก่อนตบเข้าเลนซ้ายสุด เพื่อแซงปาเจโร่ป้ายแดงวิ่งอยู่เลนกลาง แล้วก็จะตบเข้าขวาขึ้นหน้ารถดับเพลิง แต่ไม่พ้นชนปาเจโร่ หมุนไปขวางกระบะดับเพลิง ชนสุดแรงจนกระทั่งหงายท้อง โชคดีคนในรถ 6 คน คาดเข็มขัดนิรภัย เจ็บสุดเพียงแขนหัก
ส่วนคนบนรถดับเพลิง 2 คน เจ็บนิดหน่อย หลังเกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุสุทัศน์มีอาการคล้าย มึนเมา ในรถยนต์มีไวน์เปิดดื่มไปบางส่วน และปฏิเสธเป่าวัดแอลกอฮอล์ ในที่สุดยอมรับชดเชยคู่กรณีทั้งหมด ขณะตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาพร้อมพาไปตรวจเลือดหาปริมาณแอลกอฮอล์ที่ รพ.ตร.
เสี่ยใหญ่ผู้ครอบครองหลายธุรกิจซิ่งรถหรูพุ่งชนสนั่น บนทางด่วนครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 8 เดือนมกราคม พันตำรวจโทพิเชษฐ์ ก้อนแพง รอง ผกก. (สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2 บก.จร. รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน มีคนที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร หลักกิโลที่ 21+1001+100B มุ่งหน้าดินแดง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลนเจอรถยนต์หรูแบรนด์เบนท์ลีย์
รุ่นคอนติเนนตัล จีที สีเทา ทะเบียน 7 กค 3822 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ทางซ้ายสุด มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่หน้ารถยนต์ฝั่งขวา ในรถบริเวณเบาะหลังฝั่งซ้าย เจอขวดไวน์เปิดดื่มไปแล้วเล็กน้อย ใกล้กันเลนกลาง พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำป้ายแดง ทะเบียน ณ 3830 กรุงเทพมหานคร สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า มีร่องรอยถูกชนท้ายด้านซ้าย และก็ด้านหน้ากระจกแตกทุกบาน ถุงลมนิรภัยทำงานอยู่ ห่างออกไปพบรถกระบะดับเพลิง อปพร.บางรัก ทะเบียน ถธ 1861 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับ ทั้งนี้มีคนบาดเจ็บ 4 ราย ที่นั่งมาในรถยนต์มิตซูบิชิ นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับเพลิงชายอีก 2 คน บาดเจ็บนิดหน่อย
ช่วงเวลาเดียวกันกล้องหน้ารถของพลเมืองดี จับภาพระหว่างที่รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีเทา ขับมาด้วยความเร็ว แซงซ้ายแล้วเบี่ยงขวา ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ที่วิ่งอยู่เลนกลาง จนกระทั่งรถยนต์มิตซูบิชิ เสียหลักหมุนพุ่งเข้าชนขอบทางขวาสุด ก่อนรถกระบะดับเพลิง อปพร.บางรัก ที่ขับอยู่ช่องทางขวาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำ ขณะรีบไปเหตุไฟไหม้ย่านอุดมสุข กระทั่งรถยนต์มิตซูบิชิคว่ำล้อชี้ฟ้า เสียหายพังยับ
นายอิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณ คนขับดับเพลิง อปพร.บางรัก เผยว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุมีรถเก๋งหรูวิ่งตามมา ก่อนแซงซ้ายแล้วหักเข้าเลนกลาง แล้วมาขวาสุดเพื่อจะมาแซงหน้ารถยนต์ตนอีกทีหนึ่ง แต่ว่าไม่พ้นไปชนท้ายรถยนต์มิตซูบิชิจนเสียหลัก มาเลนขวาและถูกตนพุ่งชนซ้ำ มีคนเจ็บหลายคน
เช่นเดียวกับนายอานนท์ ศรีสุวรรณากุล อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร บอกว่า สังเกตอาการคนขับรถหรู มีอาการเมาเดินลงจากทางด่วน ไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อจะหนี แต่ว่ามีอาสาที่รู้เหตุการณ์ได้ขับรถตามรถแท็กซี่ไป จนถึงที่โรงพัก นอกเหนือจากนั้นขณะรอสอบสวนกับตำรวจพยายามเดินเข้าห้องน้ำ แล้วเดินออกหลังห้องน้ำ เพื่อจะหนีอีกรอบ ในที่สุดถึงพูดว่าจะรับผิดชอบความเสียหาย ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ส่วนนายศราวุธ รีรักษ์ อายุ 37 ปี คนขับรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ ป้ายแดง
กล่าวว่า พาครอบครัวทั้งหมด 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็กอายุ 4 ขวบ 1 คน ตนเป็นผู้ขับ มีพ่อนั่งด้านข้างบาดเจ็บแขนหัก ถัดมาแถวสองเป็นแม่ หลานชาย 4 ขวบ รวมทั้งแฟน ส่วนน้องสาวนั่งอยู่ด้านหลัง ออกจากบ้านพักย่านทุ่งครุ ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าลงดินแดง เพื่อจะกลับบ้าน จ.บึงกาฬ ขับเลนกลางมาตามปกติ ใช้ความเร็วราว ๆ 90 กม./ชม.
ถึงจุดเกิดเหตุ รู้สึกโดนชน เหตุเกิดขึ้นเร็วมาก หลังรถคว่ำพยายามตั้งสติ ช่วยทุกคนออกมาจากรถ ที่รอดมาได้เพราะทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย มีพ่อคนเดียวที่อาการหนัก คือแขนซ้ายหัก รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ส่วนคนอื่นมิได้รับบาดเจ็บมากนักอาการปลอดภัย
ด้าน พันตำรวจโทพิเชษฐ์ เผยออกมาว่า เบื้องต้นจากการคุยคนขับเบนท์ลีย์ยอมรับผิด ยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ กับขับขี่รถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยจะต้องรอแพทย์ประเมิน
แล้วต่อจากนั้นได้ส่งตัวคนขับไปตรวจเลือด ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ เป็นการตรวจที่ตามมาตรฐานมีความแม่นยำสูงกว่าการเป่า ยิ่งกว่านั้นประเด็นเจอขวดไวน์อยู่ข้างในรถ ว่าเปิดหรือไม่เปิดนั้น
เจ้าหน้าที่สอบสวนไม่จำเป็นจะต้องตรวจสอบ เพราะว่าผู้ขับขี่แสดงตัว และไม่ได้หลบหนี ไม่ต้องค้นรถ แล้วก็ตรวจคราบต่าง ๆ ถ้าผลตรวจเลือดจากโรงพยาบาล ออกมาว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด สามารถแจ้งข้อหาเมาแล้วขับเพิ่มได้
ดังนี้ ทางฝั่งรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ บาดเจ็บทุกคน หนักสุดแขนหักอยู่ระหว่างรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนคนอื่น เจ็บนิดหน่อย เรื่องของการพูดคุยไกล่เกลี่ย มีทนายความของฝั่งรถยนต์มิตซูบิชิได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้ว เช่นเดียวกับฝั่งรถดับเพลิง มีตัวแทนติดต่อมาแล้วเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ขับขี่รถหรูเบนท์ลีย์ คือนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ มีชื่อเป็นกรรมการ 7 บริษัท ได้แก่
1.บริษัท ไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด ประกอบการซื้อขายที่ดิน
2.บริษัท ทัช มี ฟู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด จำหน่ายอาหารสำเร็จรูป
3.บริษัท เบเนฟิท ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ขายปลีกวัสดุก่อสร้างอื่นๆ
4.บริษัท เมก้า เวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกอบการขายปลีกวัสดุก่อสร้างอื่นๆ
5.บริษัท แมกซ์ เทรด จำกัด ประกอบการขายวัสดุก่อสร้าง
6.บริษัท หทัยราษฎร์ คอมเพล็กซ์ จำกัด ประกอบการตลาดสด และ
7.บริษัท เอกทวีสิน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ประกอบการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์อาคารสำนักงาน
นอกจากนี้ นายสุทัศน์ ในอดีตเมื่อช่วงเดือน เม.ย.62 มีข่าวเป็นนายทุนพรรคเศรษฐกิจใหม่ สมัยที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคด้วย